การใช้ excel : คำนวณหนี้บัตรเครดิต (Credit card)

บัตรเครดิตเป็นแหล่งเงินกู้หรือสินเชื่อที่สะดวกและง่ายต่อการเป็นหนี้ที่สุดครับ เนื่องจากเราสามารถทำการกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้ได้เลย เรามาดูกันครับว่าหนี้เงินกู้จากบัตรเครดิต กรณีเรากดเงินสด คิดกันอย่างไร เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจการคำนวณรายจ่ายที่เราต้องเตรียมไว้ชำระหนี้เมื่อใบแจ้งหนี้มาถึง ซึ่งจะทำให้เรามีความพร้อมและรับกับผลการกู้เงินจากบัตรเครดิต (ดีกว่ารอใบแจ้งหนี้มาแล้วค่อยหาเงินมาชำระหนี้เงินกู้ครับ)

ข้อมูลที่ควรทราบ

1. ดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียม 20% ต่อปี(ตามขั้นสูงของกฎหมายจริงๆ)
2. ค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดแต่ละครั้งเท่ากับ 3% ของเงินที่กด
3. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มของค่าธรรมเนียมอีก 7%

มาดูตัวอย่างการใช้ excel คำนวณเงินกู้พร้อมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เราต้องชำระคืนในเดือนถัดไปครับ มาดูกันเลยครับ

สมมุติผมกดเงินสดจากบัตรเครดิต 50,000 บาท สมมุติว่าเรากดเงินสดจากบัตรเครดิตในวันที่ 2 มกราคม 2554 และกดครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 มกราคม 2554 อีก 10,000 บาท โดยสมมุติให้วันสรุปยอดบัญชีของการใช้บัตรเครดิตเป็นทุกวันที่ 10 ของเดือน

การใช้ Excel

ภาพที่ 1 ข้อมูลและตารางการคำนวณเงินกู้บัตรเครดิต

ในโปรแกรม excel ให้ป้อนข้อมูลใน cell ดังแสดงในภาพที่ 1 กำหนดรูปแบบของ B4 เป็นชนิด Date กำหนดสูตร excel ในแถวที่ 9 ดังนี้

1. กำหนดชนิดรูปแบบของ A9 เป็นชนิด Date และป้อนค่า 1/01/2011
2. ป้อนข้อมูลใน B9 เป็นเงินกู้ที่กดเท่ากับ 50,000 บาท
3. ป้อนสูตร excel ใน cell C9 เพื่อคำนวณค่าธรรมเนียมในการกดเงินเป็น $B$2*B9
4. ป้อนสูตร excel ใน cell D9 เพื่อคำนวณภาษีมุลค่าเพิ่มของค่าธรรมเนียม 3% เป็น $B$3*C9
5. ป้อนสูตร excel ใน cell E9 เพื่อคำนวณดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรายปีของการกู้เงินโดยคิดเป็นรายวัน เริ่มจากใช้สูตร Datedif คำนวณจำนวนวันที่กดเงินสดถึงวันวันสรุปยอดบัตร เขียนสูตร excel ได้เป็น $B$1*B9*(Datedif(A9,$B$4,”D”)+1)/365
6. ป้อนสูตร excel ใน cell F9 เพื่อคำนวณผลรวมของค่าใช้จ่ายจากการกดเงินสดก้อนนี้ เป็น B9+C9+D9+E9
7. ทำการป้อนข้อมูลในแถวที่ 10 เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายการกดเงินสดครั้งที่ 2
8. ผลการคำนวณด้วย excel แสดงได้ดังภาพที่ 2

ภาพที่ 2 ผลการคำนวณเงินที่ต้องชำระในเดือนถัดไปที่จะปรากฎในใบแจ้งหนี้

ท่านผู้อ่านอย่าลืมนะครับ เนื่องจากดอกเบี้ยคำนวณเป็นรายวัน ดังนั้นวันที่เราได้รับใบแจ้งหนี้และนำเงินไปชำระเงินกู้ 62,232.85 บาท สมมุติว่าผมนำไปจ่าย วันที่ 28 มกราคม 2554 ท่านผู้อ่านก็คงจะถูกดอกเบี้ยบัตรเครดิตเก็บไปอีกในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 28 มกราคม 2554 อีก 19 วันครับ โดยคิดเงินต้นที่ 60,000 บาท คิดเป็นดอกเบี้ยเท่ากับ 0.2*60,000*(19/365) = 624.66 บาท และหากรอจนถึงรอบบิลมาอีกครั้งเราก็จะถูกคิดดอกเบี้ยเพิ่มอีกเท่ากับ 624.66*0.2*13/365 = 4.44 บาท ครับ

ทุกท่านจะเห็นว่าหนี้เงินกู้ลักษณะคิดเป็นรายวันนั้นหากเรารีบชำระจะช่วยลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงไปได้เยอะมาก และการใช้ excel ก็มีส่วนช่วยให้เราประมาณดอกเบี้ยที่ต้องชำระได้อย่างชัดเจน ดังนั้นหากมีเงินที่สามารถชำระได้ให้รีบติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรและแจ้งชำระหนี้ไปเลยครับไม่ต้องรอใบแจ้ง ขอให้ท่านผู้อ่านโชคดีไม่มีหนี้ครับ

การใช้ Excel คำนวณเงินกู้แบบแยกเงินต้นและดอกเบี้ย

การใช้ Excel ในตอนนี้จะนำเสนอการใช้สูตร excel คำนวณการผ่อนชำระเงินกู้แบบลงรายละเอียดกว่าการคำนวณการผ่อนชำระเงินกู้ที่ได้นำเสนอไปแล้วครับ จากที่นำเสนอไปแล้ว ทำให้เราสามารถนำผลการคำนวณการผ่อนชำระเงินกู้ไปเปรยบเทียบประกอบการตัดสินใจขอสินเชื่อจากธนาคารต่างๆโดยมีเงื่อนไขของเวลาในการผ่อนชำระเงินกู้ และดอกเบี้ยเงินกู้ประกอบ ในบทความนี้จะขอนำเสนอสูตร Excel ที่ช่วยในการแยกรายละเอียดของเงินผ่อนชำระออกเป็นจำนวนเงินต้นและจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องชำระหนี้เงินกู้ในแต่ละเดือนเพื่อให้ท่านผู้อ่านเห็นผลของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ และเป็นการนำไปสู่การกู้เงินแบบลดต้นลดดอกต่อไปครับ

สูตร excel เพิ่มเติม

PPMT(rate,per,nper,pv,fv,type) เป็นสูตร excel ที่ส่งกลับค่าเงินต้นที่ต้องชำระสำหรับการกู้เงิน โดยคำนวณจากการชำระเงินกู้เป็นงวด ยอดการชำระเงินกู้ที่คงที่ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่

rate คืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่องวด

per ระบุคาบเวลาที่ต้องการค่าเงินต้นที่ต้องชำระ และต้องอยู่ในช่วง 1 ถึง nper

nper คือจำนวนงวดทั้งหมดของการชำระเงินกู้

pv คือมูลค่าปัจจุบัน— จำนวนเงินกู้ทั้งหมดที่คิดตามมูลค่าปัจจุบันจากการชำระเงินกู้ในอนาคตรวมกัน

fv คือมูลค่าในอนาคต ( FV - future value) หรือจำนวนเงินกู้ที่คุณต้องการให้คงเหลือหลังจากชำระเงินกู้งวดสุดท้าย ถ้าละไว้จะถือว่า fv เป็น 0 (ตัวอย่างเช่น มูลค่าอนาคตของเงินกู้มีค่าเป็น 0)

Type คือตัวเลข 0 หรือ 1 ซึ่งใช้บ่งชี้กำหนดชำระเงินกู้ (0 คือ ชำระสิ้นงวด ,1 คือชำระต้นงวด)

ให้ท่านผู้อ่านนำตัวอย่างการคำนวณการผ่อนชำระเงินกู้ มาทดสอบด้วยการใช้สูตร excel : PPMT โดยปรับให้จำนวนงวดที่ต้องการชำระเงินกู้เหลือ 24 งวด ผลการใช้ excel คำนวณการผ่อนชำระเงินกู้แบบแยกหนี้แยกดอกเบี้ยแสดงได้ดังภาพที่ 1

ภาพที่ 1 การใช้ excel คำนวณยอดผ่อนชำระเงินกู้

ครับก็หวังว่าสูตรการคำนวนยอดผ่อนชำระเงินกู้ที่ได้นำเสนอไปทั้งสองบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจขอกู้เงินเพื่อเป็นหนี้กับแหล่งทุนหรือธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อต่างๆครับ สวัสดีครับ

การใช้ excel คำนวณการผ่อนชำระเงินกู้

ในปัจจุบันเงินกู้เป็นปัจจัยที่เข้ามาในชีวิตของเราทุกคน จะกู้มากกู้น้อยแล้วแต่ความจำเป็น แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากรู้กันมากคือ การผ่อนชำระเงินกู้ ย้อนอดีตไปประมาณ 15 ปี ที่แล้ว นักเรียนนักศึกษาก็ได้รู้จัก เงินกู้เพื่อการศึกษาที่รัฐจัดให้กู้ยืมเพื่อศึกษาจนจบและมีระยะเวลาในการผ่อนชำระ 15 ปี ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในปัจจุบันจะเรียกว่า เงินกู้ กยศ (ก่อนวันที่ 5 กค ของทุกปี อย่าลืมเรามีนัดกับ เงินกู้ กยศ กันนะครับ) ทีนี้มาดูการคำนวณการผ่อนชำระเงินกู้กันต่อครับ ก่อนอื่นเรามาดูปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินกู้กันก่อนครับว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง

1. เงินกู้ เป็นเงินต้นที่เราขอกู้จากแหล่งเงินกู้ A หน่วยเป็นบาท
2. ระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้โดยมากเราจะคิดเป็นรายเดือน T
3. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ C หน่วยเป็น % ต่อเดือน

สูตร Excel ในการคำนวณการผ่อนชำระเงินกู้ โดยการชำระเงินกู้แบบคงที่ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่

รูปแบบ PMT(rate,nper,pv,fv,type)

โดยที่

rate คืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้

nper คือระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้ ในการชำระเงินกู้ทั้งหมด

pv คือค่า PV ( present value เป็นมูลค่าปัจจุบัน ) ของการลงทุน : มูลค่าในปัจจุบันของการชำระเงินทุกงวดทั้งหมด

fv คือมูลค่าในอนาคต ( FV - future value) หรือจำนวนเงินกู้ที่เราต้องการให้คงเหลือหลังจากชำระงวดสุดท้าย ค่า default fv เป็น 0 หมายถึงชำระจนเงินกู้หมด

type เป็นค่าตรรกะที่ระบุกำหนดการชำระเงินกู้ ( default 0 หมายถึง ชำระเมื่อสิ้นงวด 1 หมายถึง ชำระตอนต้นงวด)

ข้อสังเกต

• การชำระค่าผ่อนชำระที่ถูกส่งกลับจากฟังก์ชัน PMT จะรวมเงินกู้และดอกเบี้ยเข้าด้วยกัน(สามารถใช้ excel ช่วยคำนวณแยกเงินต้นและดอกเบี้ยในการชำระเงินกู้แต่ละงวดได้) แต่ไม่มีภาษี การชำระเงินสำรอง หรือค่าธรรมเนียมซึ่งบางครั้งจะรวมอยู่กับเงินกู้ (พบมากในการชำระหนี้บัตรเครดิต)
• ควรระวังหน่วยที่ใช้ในการคำนวณการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อให้แน่ใจว่าหน่วยของดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อนชำระเงินกู้ให้สัมพันธ์กัน

การใช้ Excel

สมมุติต้องการเงินกู้จำนวน 500,000 บาท โดยกำหนดระยะเวลาในการชำระเงินกู้จนหมดไว้ 10 ปี โดยมีอัตราดอกเบี้ย 8% ต่อปี โดยต้องการชำระเงินกู้ทุกๆสิ้นเดือน ต้องการทราบว่าต้องชำระเงินกู้เดือนละเท่าไหร่ โดยมาดูการใช้ excel กันเลยครับ

เริ่มจากกำหนดข้อมูลเบื้องต้นลงใน excel และใช้สูตร Excel : PMT ซึ่งได้อธิบายไปแล้ว ผลการคำนวณแสดงได้ในภาพที่ 1

ภาพที่ 1 ผลการคำนวณเงินกู้

จากผลการคำนวณจะพบว่าเราต้องผ่อนชำระเงินกู้เดือนละ 6,066.38 บาท หากท่านต้องการทราบค่าดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายให้แหล่งเงินกู้ ก็สามารคำนวณได้โดยใช้ Excel คำนวณดังนี้

1. ใน Cell A6 ให้พิมพ์ ดอกเบี้ยเงินกู้
2. ใน Cell B6 ให้พิมพ์สูตร $B$2*$B$5 + $B$1

ผลการใช้ excel แสดงได้ดังภาพที่ 2

ภาพที่ 2 การคำนวณดอกเบี้ยเงินกู้

จากผลการคำนวณด้วยการใช้ excel ทำให้เราทราบจำนวนเงินที่ต้องชำระซึ่งโดยส่วนใหญ่แหล่งเงินกู้ก็จะคำนวณให้ทราบอยู่แล้ว ในทางกลับกัน หากเรามีความสามารถในการชำระเงินกู้เพียงเดือนละ 5,000 บาท แต่ยังมีความจำเป็นต้องการเงินกู้ 500,000 บาทเท่าเดิม เราต้องใช้ระยะเวลาชำระเงินกู้นานขึ้น การคำนวณระยะเวลาชำระเงินกู้สามารถใช้ excel ช่วยคำนวณโดยใช้สูตร excel : Goal seek โดยดำเนินการดังนี้

1. เรียกใช้สูตร Goal seek ในเมนูเครื่องมือจะปรากฎหน้าต่างดังแสดงในภาพที่ 3 ค้นหาค่าเป้าหมาย
2. กำหนดการตั้งค่าในเซลล์เป็น Cell B5
3. กำหนดให้ค่าใน Cell B5 เป็น –5000 (จำนวนเงินที่ต้องการผ่อนชำระ)
4. กำหนดค่าให้เปลี่ยนเซลล์ระยะเวลาในการชำระเงินกู้ Cell B2
5. กดปุ่ม ตกลง excel จะทำการค้นหาระยะเวลาที่ทำให้จำนวนเงินที่ต้องการผ่อนชำระตามเป้าหมาย ผลการคำนวณด้วย excel แสดงได้ดังภาพที่ 4

ภาพที่ 3 การกำหนดค่าเพื่อหาค่าการผ่อนชำระเงินกู้

ภาพที่ 4 ค่าเป้าหมายที่ได้จากการใช้สูตร excel : Goal seek

ข้อสังเกตุ ดอกเบี้ยเงินกู้มีค่าเพิ่มขึ้นเมื่อระยะเวลาชำระเงินกู้

ในทางกลับกันเราสามารถใช้ Goal seek คำนวณจำนวนเงินกู้ที่สามารถกู้ได้ หากทราบความสามารถในการผ่อนชำระเงินกู้รายเดือนและระยะเวลาชำระเงินกู้

จากบทความนี้หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะนำไปใช้ประโยชน์และประกอบการตัดสินใจในการเลือกแหล่งเงินกู้ ข้อดีข้อเสียในแต่ละด้าน ก่อนตัดสินใจเป็นหนี้และชำระหนี้ สวัสดีครับ