วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การใช้ excel สร้างกราฟสำหรับบันทึกผลการลดน้ำหนัก

การใช้ excel ในบทความนี้ขอนำเสนอ การสร้างกราฟสำหรับบันทึกผลการลดน้ำหนักด้วย excel โดยท่านที่สนใจจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ลองเข้าไปอ่านวิธีการลดน้ำหนักได้นะครับ โดยแนะนำให้ท่านผู้อ่านบันทึกน้ำหนักของท่านทุกวันขณะที่อยู่ในระหว่างลดน้ำหนักเพื่อวิเคราะห์ผลของวิธีการลดน้ำหนักครับ ในขณะเดียวกัน KPI ที่ใช้ในการชี้วัดผลการลดน้ำหนักที่นิยมก็คือ ค่า BMI ซึ่งสามารถคำนวณได้จากน้ำหนักตัวและความสูง ครับ การบันทึกผลการลดน้ำหนักโดยใช้ excel จะนำพื้นฐานการใช้ excel ที่ได้นำเสนอไปมาประยุกต์ใช้ โดยแบบฟอร์มการบันทึกจะประกอบด้วย ค่าความสูงของท่าน(เป็นค่าคงที่) ซึ่งเพื่อความสะดวกในการเรียกใช้ เราจะใช้ excel กำหนดความสูงเป็นแบบคงที่ใช้ชื่อเป็น High ส่วนการบันทึกผลการลดน้ำหนักประจำวัน จะออกแบบให้ผู้ใช้ excel บันทึกวันเดือนปีที่ชั่งน้ำหนักและค่าน้ำหนัก จากนั้นเราจะเขียนสูตร excel เพื่อคำนวณค่า BMI ในแต่ละวันและ อัตราการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว(กิโลกรัมต่อวัน) และสุดท้ายจะทำการสร้างกราฟแสดงค่าน้ำหนักแบบกระจาย มาดูแบบฟอร์มการบันทึกข้อมูลใน excel กันดังแสดงในภาพที่ 1


ภาพที่ 1 แบบฟอร์มการบันทึกผลการลดน้ำหนักใน excel

การสร้างรูปแบบและสูตร excel ในแบบฟอร์มมีขั้นตอนดังนี้
  • กำหนดชื่อข้อมูลความสูงเป็นแบบคงที่ชื่อ High ให้กับ CELL B1 ไปแล้ว
  • กำหนดรูปแบบของวันเดือนปีที่บันทึกในหลัก A เป็น d/m/yyyy
  • กำหนดความละเอียดของค่าน้ำหนัก(หลัก C) เป็นทศนิยม 1 ตำแหน่ง
  • กำหนดความละเอียดของค่า BMI และ อัตราน้ำหนัก (หลัก D และ E) เป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง
  • กำหนดพื้นหลังของหลัก A และ C เป็นสีส้ม


การใช้สูตร excel คำนวณลำดับวัน
ใช้สูตร excel : DATEDIF ตั้งแต่ Cell B4 ลงไป เพื่อคำนวณลำดับวันของการชั่งน้ำหนักเมื่่อนับจากวันแรกที่บันทึกข้อมูล โดยเขียนสูตร excel ได้ดังนี้
(สมมุติเป็น cell B4) = IFERROR(DATEDIF($A$4,$A4+1,"D"),"")

การใช้สูตร excel คำนวณค่า BMI
เขียนสูตร excel ที่ cell D4 ได้ดังนี้ = IFERROR((High^2/$C4)^-1,"")

การใช้สูตร excel คำนวณค่าอัตราน้ำหนัก
เขียนสูตร excel ที่ cell E4 ได้ดังนี้ = IFERROR((($B3-$B4)/($C$3-$C4))^-1,"")

สำเนาสูตร excel ข้างต้นลงไปตามแถวด้านล่างประมาณแถวที่ 200 เพื่อให้สูตร excel สามารถคำนวณโดยอัตโนมัติเมื่อมีการบันทึกข้อมูลในหลัก A และ C

สร้างชื่อข้อมูลแบบพลวัตรให้กับข้อมูลหลัก B และ D เพื่อให้กราฟแสดงค่า BMI สามารถอัพเดตข้อมูลแบบอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการบันทึกข้อมูล

การใช้งานแบบฟอร์มบันทึกการลดน้ำหนักเริ่มจาก
บันทึกวันเดือนปีและน้ำหนักที่ชั่งได้ในแต่ละวัน กราฟแสดงค่า BMI แสดงได้ดังภาพที่ 2


ภาพที่ 2 ผลการใช้งานแบบฟอร์มบันทึกผลการลดน้ำหนัก

กรณีที่มีการบันทึกการลดน้ำหนักเป็นเวลานาน จะพบปัญหาจำนวนวันมากขึ้นอาจจะปรับสเกลจำนวนวันจาก Linear เป็นสเกล Log เพื่อทำให้อ่านผลการลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นครับ download Excel ไฟล์บันทึกการลดน้ำหนักไปใช้กันได้ครับ

หลังจบขั้นตอนนี้ ท่านผู้อ่านก็มีแบบฟอร์มบันทึกข้อมูลเพื่อช่วยวิเคราะห์ผลการลดน้ำหนักได้แล้วนะครับโดยใช้ excel พื้นฐานที่เคยนำเสนอมาแล้วใน blog นี้ครับ สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านสามารถนำไปประยุกตืใช้กับการบันทึกผลตัวชี้วัด KPI ที่มีการบันทึกเป็นรายวันได้














วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Excel Tips: การแสดงผลรวมเวลาที่มากกว่า 24 ชั่วโมง

Excel Tips วันนี้ขอนำเสนอ วิธีการแสดงผลเวลาที่มากกว่า 24 ชั่วโมง Excel Tips นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังใช้ Excel ในงานสำนักงานหลายๆด้านๆ เช่น ผู้ที่กำลังจะประมวลผล KPI ผู้ที่กำลังใช้ excel คำนวณชั่วโมงรวม OT ของพนักงาน หรือ ชั่วโมงรวมการเข้าอบรมของพนักงานเป็นต้น ในบทความที่ผ่านๆมาของผม ได้นำเสนอ ตัวอย่าง KPI บางหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเวลา เช่น lead KPI ค่า MTTR เป็นต้น ตามปกติหากต้องการหาผลรวมของค่าชั่วโมงใน excel จะพบว่า หากผลรวมเวลามีค่าเกิน 24 ชั่วโมง excel จะละเว้นไม่นำค่าที่เกินมาแสดงเนื่องด้วย excel ทราบว่า 1 วันมี 24 ชั่วโมง ดังนั้นความผิดพลาดจากการคำนวณก็จะเกิดขึ้นซึ่งมีผลต่อความถูกต้องของผลลัพธ์ในลำดับถัดไปได้ เรามาดูตัวอย่างการหาผลรวมจำนวนชั่วโมงซึ่งใช้สูตร excel : SUM ให้ผลลัพธ์ที่ผิดออกมา ดังภาพที่ 1  โดยผลลัพธ์ที่ถูกต้องควรเป็น 30 ชั่วโมง



ภาพที่ 1 สูตร excel : SUM ให้ผลรวมเวลาผิด

ผลรวมเวลาที่ถูกต้องสามารถหาได้โดยการแก้ไขรูปแบบการแสดงผลของ CELL C11 ใหม่จากเดิม h:mm เป็น [h]:mm หรือหากต้องการแสดงค่าวินาทีด้วยก็สามารถแก้รูปแบบแสดงผลเป็น [h]:mm:ss ผลลัพธ์จากสูตร excel แสดงดังภาพที่ 2


ภาพที่ 2 สูตร excel สำหรับรวมเวลาหลังแก้ไขรูปแบบการแสดงผล


Yahoo bot last visit powered by  Ybotvisit.com