วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560

แนวคิดวางแผนการประกันสุขภาพ

ประกันมีหลายประเภท เช่น ประกันชีวิต ประกันอบุติเหตุ ประกันสุขภาพ ประกันรถยนต์  ในบทความนี้จะขอนำเสนอแนวคิดการทำประกันสุขภาพ เนื่องด้วย สองปี ที่ผ่านมา ที่บ้านมีสมาชิกใหม่ มาดูกันว่าครอบครัวผมเกิดความคิดอะไรขึ้นเมื่อมีสมาชิกใหม่ จากที่ผ่านมา ค่ารักษาพยาบาล ของ รพ มีราคาค่อนข้างสูง (ความเสี่ยงแรก ค่ารักษาพยาบาลแพง) บ้างครั้งการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ อาจจะเป็นสาเหตุให้ต้องเข้าแอดมิดได้หากไม่รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นหากลูกมีอาการป่วยเล็กน้อยก็ต้องพาไปหาหมอเพื่อวินิจฉัยโรค เพื่อความสบายใจของพ่อแม่ ซึ่งสถานะจะเป็นผู้ป่วยนอก และก็ต้องเสียเงินค่ารักษาทุกครั้งเช่นกัน เด็กเล็ก มักจะมีความเสี่ยงในการติดโรคได้ง่ายกว่า จากความเสียงที่สรุปมา การวางแผนประกันสุขภาพในเด็กเล็กจึงมีความจำเป็นมากกว่า การทำประกันชีวิต แต่โดยส่วนใหญ่ตัวแทนประกันมักจะเสนอ แผนประกันชีวิตให้ด้วย คราวนี้มาดูกันว่า ประกันสุขภาพของลูกเราต้องพิจารณาด้านใดบ้าง 
1. การคุ้มครองผู้ป่วยนอก OPD อันนี้สำคัญสำหรับประกันสุขภาพ จำนวนเงินคุ้มครองก็ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของ รพ และ ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน แต่ผมขอบอกเลยว่า ประกันสุขภาพที่ซื้อต้องครอบคลุม OPD 
2. ค่าห้องกรณีต้องนอน รพ ประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะมีการคุ้มครองในส่วนนี้ด้วย หากห้องที่เรานอนมีราคาใกล้เคียงกับที่ประกันสุขภาพคุ้มครองก็จะช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนต่างค่าห้องได้ค่อนข้างมาก หากลูกต้องนอน รพ เป็นระยะเวลานาน
3. ค่ายาและค่าหมอ 
4. ค่าประกันรายได้ ส่วนนี้ก็ต้องนำมาพิจารณาด้วย เนื่องจากเมื่อลูกป่วย พ่อและแม่ก็ต้องลางานมาช่วยดูแล เงินคุ้มครองส่วนนี้ก็จะช่วยเราได้ 

จากการคุ้มครองของประกันสุขภาพที่ได้สรุปมา อยากให้ท่านผู้อ่านนำไปใช้พิจารณา แต่ทั้งนี้เบี้ยประกันสุขภาพประจำปีก็จะสูงขึ้นหากเราซื้อความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่อย่างที่บอกครับ เด็กเล็กมักจะป่วยบ่อย หากเราไม่ซื้อประกันสุขภาพไว้ ค่ารักษาพยาบาลอาจส่งผลกระทบต่องบการเงินของครอบครัวได้ เพราะอย่างไรก็ตาม การจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ ครอบครัวสามารถวางแผนการใช้จ่ายส่วนนี้ได้ในแต่ละปีครับ มองในระยะยาว การทำประกันสุขภาพในเด็กเล็กก็มีผลดีมากกว่าผลเสียต่องบการเงินของครอบครับ ที่สำคัญปีนี้กรมสรรพกร ได้ประกาศให้ เบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้นะครับ 

ปล ปีนีลูกสาวผมเข้า รพ ไปแล้ว 2 ครั้ง มีค่าใช้จ่ายขณะแอดมิดรวมกับ OPD กว่าแสนบาท แต่เมื่อมี ประกันสุขภาพ ทำให้ผมจ่ายจริงๆประมาณ 14,000 บาท

ที่ผ่านมามีคนสอบถามผมมากในเรื่องประกันสุขภาพของลูก โดยหัวข้อที่ถามกันมากคือเบี้ยประกันที่เหมาะสมสำหรับประกันสุขภาพของลูกควรเป็นเท่าใด อันนี้ผมแนะนำกลางๆว่า ขึ้นอยู่กับ รพ ที่พ่อและแม่เลือกใช้บริการครับ เพราะถ้าหาก เลือก รพ แพง คุณก็ควรจะเลือกแผนประกันสุขภาพที่มีเบี้ยสูงเพื่อให้ครอบคลุมกับค่ารักษาครับ อันนี้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับค่ารักษาของแต่ละ รพ เช่น ค่าหมอ ค่าห้อง ค่ายา เป็นต้นครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Yahoo bot last visit powered by  Ybotvisit.com